ยางนาเป็นไม้ต้นไม่ผลัดใบ สูงได้ถึง 40 เมตร ลำต้นเปลาตรง เปลือกหนา ค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ด สีเทาขาวหรือสีน้ำตาลอ่อนอมเทา มีน้ำมันยางที่มีกลิ่นเฉพาะ กิ่งอ่อนมีขนสั้นนุ่มหนาแน่น มีรอยแผลหูใบเป็นวงรอบข้อ
ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 4-14 เซนติเมตร ยาว 9-24 เซนติเมตร ปลายแหลมหรือเรียวแหลม โคนรูปลิ่ม กว้าง มนกลม หรือเว้ารูปหัวใจเล็กน้อย ขอบเรียบและเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ด้านบนสีเขียวเข้ม มีขนตามเส้นกลางใบ ด้านล่างสีอ่อนกว่า มีขนสั้นนุ่มหนาแน่นตามเส้นกลางใบและเส้นแขนงใบ เส้นกลางใบแบนหรือนูนเล็กน้อยทางด้านบน เส้นแขนงใบข้างละ 12-20 เส้น เฉียงขึ้น ปลายโค้งขึ้นใกล้ขอบใบ เส้นใบย่อยแบบขั้นบันได ก้านใบยาว 2-6 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่ม หูใบหุ้มยอดร่วงง่าย รูปใบหอก ยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ใบแก่ก่อนร่วงสีเหลือง
ช่อดอกแบบช่อกระจะหรือช่อแยกแขนงสั้น ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาว 3-12 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ถ้าเป็นช่อแยกแขนงมีช่อย่อยยาว 2-7 เซนติเมตร แต่ละช่อมี 3-5 ดอก ดอกตูมทรงรูปไข่ ยาว 1-2 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 เซนติเมตร มีกลิ่นหอมอ่อน กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เป็นสัน 5 สัน มีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ปลายแยกเป็น 5 แฉก แฉกยาว 2 แฉก กว้าง 2-3 มิลลิเมตร ยาว 1-1.5 เซนติเมตร แฉกสั้น 3 แฉก ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร กลีบดอก 5 กลีบ บิดเวียน สีขาวนวล กลางกลีบด้านในมีแถบตามยาวสีชมพู รูปเคียวแกมรูปใบหอก กว้าง 5-7 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร เกสรเพศผู้ประมาณ 30 เกสร ก้านชูอับเรณูยาว 1-2 มิลลิเมตร อับเรณูยาว 4-8 มิลลิเมตร เกลี้ยงหรือช่วงกลางมีขนสั้นนุ่มประปราย ปลายอับเรณูมีรยางค์ที่เจริญมาจากแกนอับเรณู เรียว ยาวได้ถึง 5 มิลลิเมตร รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปทรงค่อนข้างกลม กว้างประมาณ 4 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร มีขนสั้นนุ่มหนาแน่น มี 2-3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด ฐานก้านยอดเกสรเพศเมียเห็นไม่ชัด ก้านยอดเกสรเพศเมียรูปเส้นด้าย ยาว 0.7-1 เซนติเมตร ยอดเกสรเพศเมียขนาดเล็กมาก
ผลแบบผลเปลือกแข็ง ทรงรูปไข่ กว้าง 1-2.5 เซนติเมตร ยาว 2.5-4 เซนติเมตร (รวมหลอดกลีบเลี้ยงขยายใหญ่หุ้มผล) หลอดกลีบเลี้ยงหุ้มผลมีครบตามยาว 5 ครีบ กว้าง 0.5-1 เซนติเมตร สีเขียวอ่อน เมื่อแห้งสีน้ำตาล มีขนสั้นนุ่มประปราย แฉกกลีบเลี้ยงขยายใหญ่และติดทน แฉกยาว 2 แฉก เป็นปีก กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร ยาว 7-13 เซนติเมตร สีแดง โคนสีเขียวอ่อน เมื่อแห้งสีน้ำตาล มีเส้นปีกตามยาว 3 เส้น เส้นย่อยแบบร่างแห แฉกสั้น 3 แฉก รูปค่อนข้างกลม กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาว 1-1.5 เซนติเมตร สีเขียวอ่อน เมื่อแห้งสีน้ำตาล ขอบม้วนลงมี 1 เมล็ด
ยางนา มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทั่วทุกภาค พบตามป่าดิบแล้ง มักพบตามริมแม่น้ำ ริมลำธาร บริเวณที่ราบน้ำท่วมถึง บางครั้งพบตามป่าดิบแล้งใกล้ชายฝั่งทะเล ที่สูงตั้งแต่ใกล้ระดับทะเลปานกลาง ถึง 500 เมตร นำมาปลูกทั่วทุกภาค ออกดอกเดือนมกราคมถึงมีนาคม เป็นผลเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ในต่างประเทศพบที่อินเดีย บังกลาเทศ ศรีลังกา หมู่เกาะอันดามัน เมียนมา ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมาเลเซีย และฟิลิปปินส์
ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้าง ใช้ทำไม้หมอนรองรางรถไฟ น้ำมันยางใช้ทาไม้ ใช้ผสมชันยาเรือและเครื่องจักสาน ใช้ทำขี้ไต้
ยางนา เป็นพรรณไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดอุบลราชธานี
ผู้เขียน : รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย
ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้าง ใช้ทำไม้หมอนรองรางรถไฟ น้ำมันยางใช้ทาไม้ ใช้ผสมชันยาเรือและเครื่องจักสาน ใช้ทำขี้ไต้
ยางนา เป็นพรรณไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดอุบลราชธานี
ผู้เขียนและผู้ถ่ายภาพ รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย
ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์