ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ อยู่เป็นกลุ่มที่ปลายกิ่ง แผ่นใบรูปรี หรือรูปไข่แกมขอบขนาน
ถึงรูปใบหอกแกมรูปไข่ ขนาด 5-9 x 10-22 ซม. ปลายใบกลม หรือเป็นติ่งหนาม ถึงค่อนข้างเรียวแหลม ฐานใบกลมถึงเว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวใบด้านบนเกลี้ยงสีเขียวเข้ม ด้านท้องใบมีเกล็ดสีเทา-เงิน หนาแน่น เส้นใบ 7-15 คู่ ปลายเส้นประสานกันก่อนถึงขอบใบ เส้นกลางใบ และเส้นใบเห็นเด่นชัดมากทางด้านท้องใบ ก้านใบค่อนข้างอวบ ยาว 0.5-1.1 ซม.
ดอก ออกตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่งเป็นช่อแยกแขนง ยาว 10-20 ซม. เป็นดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกันดอกเล็ก รูประฆัง ยาว 0.3-0.7 ซม. มีขนสั้นนุ่ม ผิวด้านนอก สีน้ำตาลแกมเขียวด้านในสีแดง-ส้ม วงกลีบรวม 4-6 กลีบ รูปสามเหลี่ยมแคบๆ ไม่มีกลีบดอก ดอกเพศผู้ยาว 0.3-0.5 ซม. ดอกเพศเมียยาว 0.3-0.7 ซม. ออกดอกเดือนมีนาคม-พฤษภาคม และเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
ผล รูปทรงรี ขนาด 4-6 x 5-11 ซม. เปลือกเป็นเส้นใยอัดแน่น ผิวเกลี้ยงเป็นมันผลอ่อนสีเขียว
ผลแก่สีน้ำตาล ด้านบนทางปลายผลมีสันคล้ายครีบ เห็นเด่นชัด เมล็ดค่อนข้างกลม มี 1 เมล็ด
มักขึ้นตามด้านในของป่าชายเลนทั่วๆ ไปในเขตน้ำกร่อยที่ดินค่อนข้างเป็นดินทราย
แหล่งอ้างอิง
ระบบฐานข้อมูลกลางและมาตรฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้าถึงได้จาก
https://km.dmcr.go.th/th/c_1/s_350/d_6476
วิธีการปรุงยา :
เมล็ด ต้มเป็นยาหม้อดื่ม
กิ่งอ่อน มีสารแทนนิน ใช้ถูฟันรักษาเหงือก
เปลือก ต้มน้ำบ้วนปาก แก้รำมะนาด ปากอักเสบ
เมล็ด รับประทาน แก้ท้องเสีย แก้บิด