ลำต้น : ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 30 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปกลมหรือไข่ ลำต้นเปลาตรง โคนต้นมักเป็นพูพอนต่ำ เปลือกสีน้ำตาลอ่อนเรียบหรือล่อนออกเป็นแถบชื้นตามยาว กิ่งอ่อนเป็นรูปสี่เหลี่ยม กิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีเหลืองรูปดาว
ใบ : เดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปไข่กลับกว้างหรือรูปไข่ กว้าง 12-35 ซม. ยาว 15-75 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบรูปลิ่ม ผิวใบด้านบนสากด้านล่างมีขนอ่อนนุ่ม เส้นแขนงใบข้างละ 9-14 เส้น ก้านใบยาว 1-5 ซม.
ดอก : ดอกสีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงตามปลายกิ่ง ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 3 มม. กลีบเลี้ยง 6 กลีบ กลีบดอกรูปกรวยปลายแยกเป็น 6 กลีบ แผ่บานโค้งไปด้านหลังมีขน เกสรเพศผู้มี 5-6 อัน เกสรเพศเมียยาวเท่าเกสรเพศผู้มี 1 อัน รังไข่มีขนหนาแน่น
ผล : แห้งค่อนข้างกลม สีเขียวอ่อนแกมเหลือง ขนาด 1.5-2 ซม. ประกอบด้วยชั้นของกลีบเลี้ยงที่พองกลมบางคล้ายกระดาษห่อหุ้มเมล็ด เมล็ด แข็งขนาด 1 ซม. มีขนคล้ายไหมภายในมี 4 ช่อง มี 1 เมล็ด ในแต่ละช่อ
แหล่งอ้างอิง
อุทยานหลวงราชพฤกษ์ https://www.royalparkrajapruek.org/Plants/view?id=1371
- เมล็ด ใช้รักษาโรคตา
- เปลือกไม้ บรรเทาอาการบวม ปวดศีรษะ
- ใบอ่อนหั่นฝอย ตากหรือคั่วให้แห้ง ชงน้ำดื่มช่วยลดน้ำหนัก
- แก่นช่วยขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ แก้ไข้
- ไม้สักเป็นไม้ที่มีคุณค่ามาก เนื้อไม้มีสีเหลืองทอง ใช้ก่อสร้างบ้านเรือน ทำเครื่องแกะสลัก ทำเครื่องมือทางการเกษตร
- เปลือกรากและใบอ่อนให้สีย้อมสีน้ำตาลเหลือง
- หลายส่วนของพืชใช้รักษาระบบปัสสาวะ ถ่ายพยาธิ โรคเบาหวาน เจ็บคอ ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- แก่นและใบขับลมในลำไส้ รักษาเบาหวาน