มะขามเป็นไม้ต้นไม่ผลัดใบ สูงได้ถึง 20 เมตร เปลือกแตกเป็นร่องตื้น สีน้ำตาลอมดำ กิ่งอ่อนมีขนสั้นนุ่ม
ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลายคู่ เรียงสลับ มีใบย่อย 10-18 คู่ เรียงตรงข้าม รูปขอบขนานหรือรูปแถบแกมรูปขอบขนาน กว้าง 3-7 มิลลิเมตร ยาว 0.8-2.5 เซนติเมตร มักไม่สมมาตร ปลายมนหรือเป็นติ่งแหลม โคนเบี้ยว ขอบเรียบ แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ ด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีอ่อนกว่า เกลี้ยง ทั้ง 2 ด้าน ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามปลายกิ่ง ยาว 2-30 เซนติเมตร แต่ละช่อมี 3-15 ดอก ดอกบาน มีกลิ่นหอมอ่อน เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.5 เซนติเมตร กลีบเลี้ยง 4 กลีบ สีเหลืองอ่อน รูปใบหอกหรือรูปไข่แกมรูปขอบขนาน กลีบดอก 3 กลีบ สีขาวนวลอมเหลือง มีเส้นกลีบสีแดง ขนาดไม่เท่ากัน กลีบบนรูปขอบขนานแกมรูปรี กลีบคู่ข้างรูปไข่แกมรูปใบหอก เกสรเพศผู้ 3 เกสร รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ สีเขียว รูปแถบ มีขนสั้นนุ่ม ผลแบบผลแห้งไม่แตก เป็นฝัก ค่อนข้างแบน รูปขอบขนาน มักโค้งขึ้น มีรอยคอดระหว่างเมล็ดเล็กน้อย ผลอ่อน สีเขียวอมน้ำตาล ผลแห้งสีน้ำตาล เมล็ดสีน้ำตาลเข้มอมดำ เป็นมัน ค่อนข้างแบน รูปค่อนข้างกลมหรือรูปคล้ายสี่เหลี่ยม ไม่สมมาตร
มี 3-12 เมล็ด มะขามเป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดที่เกาะมาดากัสการ์ นำเข้ามาปลูกทั่วไปในเขตร้อน ออกดอกเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ผลแก่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ประโยชน์ ยอดอ่อน ใบอ่อน และผลอ่อนมีรสเปรี้ยว ผลสุกเนื้อรสเปรี้ยว ใช้ประกอบอาหาร ผลสุก เนื้อมีรสหวาน รับประทานได้ เมล็ดนำไปคั่ว รับประทานได้ เนื้อไม้ใช้ทำเขียงและเครื่องเรือน มะขามเป็นพรรณไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดเพชรบูรณ์
ยอดอ่อน ใบอ่อน และผลอ่อนมีรสเปรี้ยว ผลสุกเนื้อรสเปรี้ยว ใช้ประกอบอาหาร ผลสุก เนื้อมีรสหวาน รับประทานได้ เมล็ดนำไปคั่ว รับประทานได้ เนื้อไม้ใช้ทำเขียงและเครื่องเรือน