ต้น ไม้พุ่ม สูง 2-3 เมตร ทรงพุ่มแผ่กว้าง เปลือกต้นสีเทา
ใบ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปไข่กลับ ปลายแหลมติ่ง โคนสอบเรียว ขอบเรียบ แผ่นใบหนาผิวมัน สีเขียวเข้ม
ดอก ออกดอกเป็นช่อ ตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกสีขาวหรือดอกสีเหลืองอ่อน กลีบเชื่อมติดกันรูปปากแตร ปลายแยก 5 แฉก รูปหัวใจ ปลายเว้า กลีบม้วนงอออก เกสรเพศผู้ 5 เกสร ดอกมีกลิ่นหอม ฤดูกาลออกดอกเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม
ข้อมูลทั่วไป
มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงอินโดนีเซีย
การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์ การปลูกเลี้ยง ดินทุกชนิด ต้องการน้ำมาก ชอบแดดจัด
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง
การใช้ประโยชน์ ปลูกประดับสวน ปลูกให้ร่มเงา
สรรพคุณของแก้วมุกดา
เป็นยาบำรุงโลหิต
แก้ผื่นคัน แก้ลมพิษ แก้กษัย แก้ภูมิแพ้ ขับปัสสาวะ ช่วยป้องกันการเกิดแผล
ในกระเพราะอาหาร แก้โรคนิ่วในกระเพาะได้ด้วย
พบว่าตามตำรายาพื้นบ้านอีสาน
จะใช้รากแก้วมุกดาหรือโกงกางเขา มาต้มกับน้ำดื่ม เป็นยาบำรุงโลหิต
กิ่ง เปลือกต้น หรือราก สามารถนำมาต้มกับน้ำอาบแก้อาการผด
ผื่นคันจากยางของต้นรักได้
และยังมีสรรพคุณช่วยแก้ลมพิษ โดยนำกิ่ง เปลือกต้น หรือราก มาต้มกับน้ำอาบ
ฟาร์เล่น
ออแกนิกส์ เข้าถึงได้จาก
https://kaset.today/%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B2/